คาดประกาศใช้ มิ.ย.60 นี้ สกสค.ยันหากได้เงินที่หักไปคืนมา จะนำมาใช้ในการดูแลสวัสดิการและสวัสดิภาพครูทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่แก้หนี้ครูเท่านั้น
วันที่ 16 พ.ค.60 นายพิษณุ ตุลสุข รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนพร้อมด้วยนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผอ.ธนาคารออมสิน ได้หารือกรณีที่ สกสค.เจรจาให้ธนาคารออมสิน คืนเงินจำนวน 9,600 ล้านบาท ที่ได้หักจากเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ชำระหนี้แทนผู้กู้ที่ค้างชำระเกิน 3 งวดขึ้นไป คืนให้กับ สกสค. เนื่องจากทางฝ่ายกฎหมายของ สกสค.ได้ตรวจสอบได้ตรวจสอบบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยู ที่อดีตเลขาธิการ สกสค.ทำไว้กับธนาคารออมสิน กรณีให้ธนาคารออมสินหักเงินจากกองทุนสนับสนุนพิเศษฯ เพื่อชำระหนี้แทนผู้ที่ค้างชำระเกิน 3 งวดขึ้นไปได้นั้น เป็นสัญญาฝ่ายเดียว ถือเป็นการทำนิติกรรมที่ไม่ถูกต้อง โดยมี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เป็นคนกลางในการพูดคุย
ทั้งนี้ จากการหารือทั้ง สกสค.และธนาคารออมสิน ต่างเห็นว่า เงินดังกล่าวเป็นสิทธิ์ของตนเองและยืนยันว่าทำถูกต้อง ดังนั้น นพ.ธีระเกียรติ ในฐานะคนกลางเห็นว่า ทั้ง สกสค.และธนาคารออมสิน ต่างเป็นหน่วยงานของรัฐ หากเกิดปัญหาฟ้องร้องก็ไม่เกิดประโยชน์ รังแต่จะทำให้ปัญหายืดเยื้อ จึงเสนอให้ สกสค.ไปหารือกับธนาคารออมสิน เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวร่วมกัน รวมถึงมีมติให้ยกเลิกเอ็มโอยู เดิมที่ธนาคารออมสินทำไว้กับอดีตเลขาธิการ สกสค. และให้ทำเอ็มโอยูฉบับใหม่ กับเลขาธิการสกสค.คนปัจจุบัน
"สำหรับร่างสัญญาเอ็มโอยู ฉบับใหม่ หลักการสำคัญคือ สกสค.และธนาคารออมสิน ต้องมาช่วยกันติดตามทวงหนี้ ผมขอย้ำว่า ครูเป็นหนี้ก็ต้องชำระหนี้ ไม่ใช่ทำกันจนเป็นแฟชั่นว่า ไม่ต้องใช้หนี้ มีกองทุนเงินสนับสนุนฯ จ่ายให้ ขอสำนึกได้ว่า กรรมใดใครก่อก็ต้องรับผิดชอบ การที่ครูที่ไม่ใช้หนี้ ก็ส่งผลต่อชื่อเสียง จรรยาบรรณและยังเป็นการเอาเปรียบครูดีที่ที่วินัยในการชำระหนี้อีกหลายหมื่นคน โดยขณะนี้ยอดหนี้ในระบบที่สมาชิก ช.พ.ค.กับธนาคารออมสินเพิ่มขึ้นถึง 3 แสนล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมา ทาง ช.พ.ค.เพิ่มวงเงินกู้ได้สูงถึง 3 ล้านบาท ทำให้ครูมากู้จนเกินกำลังจนเกิดเป็นปัญหา ส่วนเงินที่ธนาคารออมสิน หักไปจากกองทุนเงินสนับสนุนฯ เพื่อชำระหนี้แทนครูที่ค้างชำระ 3 งวดขึ้นนั้นยอดปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ10,000 กว่าล้านบาท เบื้องต้น ธนาคารออมสินไม่ปฏิเสธว่า จะไม่จ่าย แต่อาจจะเป็นการจ่ายแบบมีเงื่อนไข เช่น ผ่อนจ่ายเป็นงวด เป็นต้น ซึ่งต้องระบุในเอ็มโอยู ฉบับใหม่ให้ชัดเจน"
นายพิษณุ กล่าวและว่า ทั้งนี้ สกสค.และออมสิน จะต้องเร่งทำเอ็มโอยู และประกาศใช้ให้ทันภายในเดือน มิ.ย.60 นี้ ทั้งนี้หากได้เงินที่ธนาคารออมสิน หักไปคืนมา สกสค. ก็จะได้นำมาใช้ในการดูแลสวัสดิการและสวัสดิภาพครูทั่วประเทศ ให้เกิดประโยชน์กับคุณภาพชีวิตครู ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาหนี้ครูเท่านั้น