'ครูวัลย์' เล็งฟ้องให้ลำดับ 18 โมฆะ หึ่งมติกศจ.ตากส่อไม่ชอบกม. เหตุอำนาจบรรจุเป็นของ 'ศธจ.'
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน นายอดิศร เนาวนนท์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)นครราชสีมา ในฐานะอดีตประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.)เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 7 ให้สัมภาษณ์กรณีที่คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.)สุโขทัยเรียกบรรจุลำดับที่ 18 ถัดจากน.ส.วนาลี ทุนมาก หรือครูแอน และน.ส.นิราวัลย์ เชื้อบุญมี หรือครูวัลย์ ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 16 และ 17 ตามลำดับของบัญชีรวมของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.)สุโขทัย เรียบร้อย ซึ่งเป็นการเรียกบรรจุที่ข้ามลำดับของครูแอนและครูวัลย์ ว่า ถ้าสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.)สุโขทัยไม่ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังครูแอนและครูวัลย์ก่อนการเรียกบรรจุแต่งตั้ง ครูทั้งสองก็มีสิทธิฟ้องให้เป็นโมฆะเพราะถือว่าเป็นการเรียกบรรจุที่ข้ามลำดับของตนเอง ศธจ.สุโขทัยจะไปอ้างไม่ได้ว่ามีการสอบถามเป็นการภายในและได้คำตอบจากเขตพื้นที่ฯ แล้วว่าครูทั้งสองได้รับการบรรจุที่โรงเรียนอุ้มผางฯ แล้ว เพราะตามหลักการ ต้องทำหนังสือสอบถามครูทั้งสองเป็นลายลักษณ์อักษร อย่างไรก็ตามก่อนที่ครูทั้งสองจะฟ้องได้ จะต้องร้องทุกข์กับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)ซึ่งเป็นต้นสังกัดตามลำดับขั้นตอนก่อน
ด้านน.ส.นิราวัลย์ เชื้อบุญมี หรือครูวัลย์ อดีตครูผู้ช่วยโรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม จ.ตาก กล่าวว่า ยืนยันว่าที่ผ่านมาศธจ.สุโขทัยไม่เคยสอบถามหรือทำหนังสือมาเลย ทั้งนี้โดยเป้าหมายของการร้องทุกข์ของตนและครูแอนต่อสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เพื่อนำไปสู่การฟ้องศาลปกครองเพื่อให้การบรรจุแต่งตั้งข้ามลำดับเป็นโมฆะเพียงแต่กระบวนการในการฟ้องร้องนั้น ฟ้องร้องได้จะต้องร้องทุกข์ต่อต้นสังกัดตามลำดับขั้นตอนก่อน จึงเป็นที่มาที่ตนและครูแอนไปร้องทุกข์ต่อสำนักงาน ก.ค.ศ. ฉะนั้นหลังจากที่สำนักงาน ก.ค.ศ. ตอบหนังสือกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ตนและครูแอนจึงจะได้นำเอกสารดังกล่าวไปประกอบการฟ้องศาลปกครองต่อไป ซึ่งเท่าที่ทราบฟัง เหมือนสำนักงานก.ค.ศ.อยู่ระหว่างการขอเอกสารจากสพม.เขต 38 กศจ.สุโขทัยและกศจ.ตาก เพราะในคราวร้องทุกข์ต่อสำนักงานก.ค.ศ.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานก.ค.ศ.บอกว่าข้อมูลการเรียกบรรจุของทั้ง 3 หน่วยงานดังกล่าว ยังไม่ตรงกัน
“ทราบว่าจะต้องนำเข้าหารือที่ประชุม ก.ค.ศ. ก่อน และเมื่อสำนักงาน ก.ค.ศ.ทำหนังสือตอบกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว ดิฉันกับครูแอนค่อยพิจารณากันต่อไปว่าจะต้องร้องเรียนอย่างไรต่อหรือไม่ ในประเด็นการเรียกบรรจุข้ามลำดับของดิฉันและครูแอนเพื่อให้การเรียกข้ามลำดับดังกล่าวเป็นโมฆะ” ครูวัลย์ กล่าว และว่า ทั้งนี้ทราบว่า กศจ.ตากมีมติให้สพม.เขต 38 เรียกบรรจุครูผู้ช่วยเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2560 ไป 10 อัตรา ซึ่งสพม.เขต 38 เรียกมารายงานตัวทั้งตัวจริงและตัวสำรองหลายคน และตนเห็นเว็บไซต์สพม.เขต 38 แจ้งว่าได้บรรจุไป 16 คน ฉะนั้นถ้าตัดตนและครูแอนออก เท่ากับว่าบรรจุทั้งหมด 14 คน ก็ต้องถามว่าแล้วอีก 4 คน บรรจุที่ไหนกันบ้างในเมื่อกศจ.ตากมีมติให้บรรจุแค่ 10 อัตรา
แหล่งข่าวจากสพม.เขต 38 คนหนึ่ง กล่าวว่า น่าสังเกตว่าเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2560 มีคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของศธ. โดยข้อ 13 ระบุว่า “การบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดหรือกรุงเทพฯ ตามมาตรา 53 (3)(4)แห่งพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ให้ศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.)โดยความเห็นชอบของ กศจ.เป็นผู้มีอํานาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง” ฉะนั้นการที่ กศจ.ตาก มีมติเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2560 ให้สพม.เขต 38 เรียกบรรจุแต่งตั้งครูผู้ช่วยตามบัญชีคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.) สพม.เขต 38 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 และลงวันที่ 19 ตุลาคม 2558 จำนวน 10 ราย ดังกล่าว อาจจะไม่ชอบกฎหมายด้วยหรือไม่ เนื่องจากหลังวันที่ 3 เมษายน เป็นต้นไป อำนาจในการบรรจุแต่งตั้งเป็นของศธจ.แล้ว ดังนั้น ศธจ.ตากจึงต้องเป็นผู้เรียกบรรจุแต่งตั้ง ไม่ใช่ ผอ.สพม.เขต 38