การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ และการคูณทศนิยม สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

KRUPUNMAI SHARE

ชื่อเรื่อง           การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI  กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
                    เรื่อง การบวก  การลบ และการคูณทศนิยมสำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

             ผู้วิจัย          นางชนิสรา  อริยะเดชช์

        หน่วยงาน         โรงเรียนเทศบาลวัดเหนือ   เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด  จังหวัดร้อยเอ็ด

             ปีที่วิจัย         2559

บทคัดย่อ

          การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI  กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก  การลบ และการคูณทศนิยม สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก  การลบ และการคูณทศนิยม สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์  80/80  2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก  การลบ และการคูณทศนิยม สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5  3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI  กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก  การลบ และการคูณทศนิยม สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5   4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก  การลบ และการคูณทศนิยม สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทศบาลวัดเหนือ  เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด  ในภาคเรียนที่ 2  ปีการศึกษา  2559   จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster  Random  Sampling)  เนื่องจากการจัดห้องเรียนแบบคละความสามารถทุกห้อง  เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ ชุดการเรียนรู้ เรื่องการบวก  การลบและการคูณทศนิยม  แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก  การลบ และการคูณทศนิยม สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5   แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI  กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้  ร้อยละ  ค่าเฉลี่ย  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  ค่า t-test

               ผลการวิจัยพบว่า 

               1. ชุดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก  การลบ และการคูณทศนิยม สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5   มีประสิทธิภาพเท่ากับ  83.44/80.43  ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80  ที่ตั้งไว้

               2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค TAI กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก  การลบ และการคูณทศนิยม สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.5589 หรือคิดเป็นร้อยละ 58.89  

 

            3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ  และการคูณทศนิยม  สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .05 

               3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ  และการคูณทศนิยม  สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( ) เท่ากับ 4.86  ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ  0.35
                  
                            

Rate this post

KRUPUNMAI SHARE

Check Also

การประเมินโครงการพัฒนาสมรรถภาพการจัดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนเทศบาลบ้านกิโลสอง สังกัดเทศบาลเมืองอรัญญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

KRUPUNMAI SHARE ...

@ เว็ปไซต์ เพื่อข้อมูลข่าวสารทางด้านการศึกษา www.krupunmai.com @ ครูพันธุ์ใหม่ดอทคอม @