"ดาว์พงษ์" เตือนคนโกหก-บิดเบือน ไม่หยุดจะเชิญมาปรับทัศนคติ
เมื่อวันที่ 28 มี.ค.59 พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ภายหลังที่มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่องการขับเคลื่อนเรื่องการปฏิรูปการศึกษาของ ศธ.ในภูมิภาค ปรากฏว่ามีผู้ออกไปให้ข่าวโกหกบิดเบือน ทำให้ครูและผู้บริหารสถานศึกษาตื่นตระหนกนั้น
ตนขอชี้แจงว่า เรื่องการโอนย้ายครูไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) การกำหนดให้เปลี่ยนสถานภาพข้าราชการครู ไปเป็นพนักงานราชการในร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับใหม่ เงินวิทยฐานะจะหายไปแล้วมีเงินเยี่ยวยาแทน การยกเลิกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู การยุบสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา การยุบเขตพื้นที่การศึกษา เหลือจังหวัดละเขตเดียว การยุบสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ไม่มีกองทุน การฌาปณกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ไม่ต้องจ่ายศพละบาทอีกต่อไป หากครูเสียชีวิตก็ใช้เงินประกันสังคมแทนนั้น ทุกเรื่องล้วนโกหกไม่เป็นความจริง มีเจตนาสร้างความบิดเบือน ซึ่งตนขอเตือนว่า ผู้ที่มีเจตนาบิดเบือน อย่าทำ ตนไม่ยอม จะขอชี้แจงผ่านสื่อก่อน แต่ถ้าหากยังไม่หยุดก็จะเชิญมาพูดคุยที่ ศธ.
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ยังมีอีกหลายเรื่องที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน เช่น รัฐจะให้คูปองการศึกษา แก่ผู้เรียนทุกคนแล้วไปเลือกเรียนที่ไหนก็ได้ เรื่องนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา รูปแบบยังไม่ออกมา ส่วนกรณีที่ระบุว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ไม่เหมาะสมกับวิชาการ ไม่มีประสบการณ์ นั้นไม่เป็นความจริง เพราะคนเป็นผู้ว่าฯ ได้ต้องมีภูมิความรู้ และไม่ได้เข้ามาจัดการศึกษาโดยตรง แต่จะเป็นผู้อำนวยการบูรณาการงานในพื้นที่ให้ แต่การพิจารณาเรื่องต่าง ๆ จะอยู่ในรูปองค์คณะบุคคล และที่ระบุว่าจะมีมาเฟียในพื้นที่มากขึ้นนั้น ตนมั่นใจว่า กศจ.ทั้ง 22 คน มีต้นทุนที่สูง จะไม่ทำอะไรออกนอกลู่นอกทาง
ทั้งนี้ การได้มาซึ่งการได้มาซึ่ง กศจ.กำลังอยู่ระหว่างการทำหลักเกณฑ์ระเบียบแนวปฏิบัติ คู่มือการปฏิบัติงาน ให้คณะกรรมการชุดต่าง ๆ ทำงานได้ชัดเจนขึ้น ส่วนการได้มาซึ่งกรรมการชุดต่างๆ ที่เกรงว่า ผู้ที่เคยมีปัญหาจะกลับเข้ามาเป็นกรรมการอีกนั้น ขณะนี้ยังไม่มีแบล็กลิสว่า ใครเคยเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่แต่เชื่อว่า คนในพื้นที่รู้ดีว่าใครเป็นอย่างไร ซึ่งก็จะคัดเลือกคนที่เหมาะสมเข้ามาทำงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การแต่งตั้งให้ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เขต1 มาปฏิบัติหน้าที่ ศึกษาธิการจังหวัง(ศธจ.) และให้ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่ฯ อื่น ๆ รวมถึง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) มาเป็นรอง ศธจ.ทั้งที่ตำแหน่งเท่ากัน จะถือว่าเป็นการลดตำแหน่งหรือไม่นั้น
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าใครจะคิดเล็กคิดน้อยอย่างนั้น เพราะถ้าคิดก็คงไม่ไหว และการที่ให้สพป.เขต1 มาเป็น ศธจ.ก็เพราะสพป.เขต1เป็นผู้แทนของ ศธ.ประจำจังหวัดอยู่แล้ว แต่จะได้เป็นตัวจริงหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ
ทั้งนี้ ตนได้หารือกับผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) เพื่อคิดกรอบอัตรากำลัง ภาระงาน เมื่อได้กรอบมาแล้วก็จะเกลี่ยคนใน ศธภ.และ ศธจ. โดยจะพยายามไม่เพิ่มคน
สำหรับการรับสมัครคัดเลือกครูผู้ช่วย ที่ได้เลื่อนออกไปนั้น ยังให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เดิม ที่ให้เขตพื้นที่ฯ จัดสอบ โดยรวมกลุ่มและให้มหาวิทยาลัยออกข้อสอบ จากนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) จะต้องไปกำหนดปฏิทินการสอบใหม่ และประกาศให้ทราบต่อไป
http://www.siamrath.co.th/web/?q=%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A9%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%81-%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%B4