เมื่อวันที่ 6 กันยายน นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน ก.ค.ศ.เตรียมปรับแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงหลัก เกณฑ์และวิธีการเข้าสู่ตำแหน่งของรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษาใหม่ ตามที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เห็นชอบในหลักการ โดยการเข้าสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา จะสอบคัดเลือกเข้าสู่ตำแหน่ง เฉพาะผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดเล็ก ส่วนโรงเรียนขนาดกลางและใหญ่ ใช้วิธีการเลื่อนลำดับ ดังนั้น จึงต้องมีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับมาตรฐานตำแหน่ง ซึ่งเดิมให้ครูชำนาญการ สามารถสมัครสอบคัดเลือกเป็นผู้อำนวยการสถานศึกษา แต่หลักเกณฑ์ใหม่ กำหนดให้ผู้ที่จะสมัครเข้าสอบคัดเลือกเป็นผู้อำนวยการสถานศึกษาต้องปฏิบัติ หน้าที่การสอนไม่น้อยกว่า 10 ปี และในส่วนนี้ต้องเคยดำรงตำแหน่งในทางการบริหาร อาทิ เป็นหัวหน้าแผนกวิชา หัวหน้าฝ่ายไม่น้อยกว่า 4 ปี นอกจากนี้ จะต้องมีการพิจารณาว่าควรปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 3 ฉบับ หรือเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน อาจจะพิจารณายกร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่
นายพินิจศักดิ์กล่าวต่อว่า ในการพิจารณาเรื่องค่าตอบแทนของผู้อำนวยการสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการสถาน ศึกษา ที่ผู้อำนวยการสถานศึกษาคัดเลือกมาจากครูในโรงเรียนนั้น จะเทียบเคียงกับค่าตอบแทนของอาจารย์มหาวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบันข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จะมีเงินวิทยฐานะตามระดับ แต่แนวคิดใหม่จะให้มีเงินประจำตำแหน่งตามขนาดของสถานศึกษา ซึ่งมีอัตราค่าตอบแทนไม่เท่ากัน และหากครูที่เข้าสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษามีเงินวิทยฐานะติดตัวมา ก็จะต้องเลือกว่าจะรับเงินในส่วนใดส่วนหนึ่งเพียงอย่างเดียว จะรับสองทางไม่ได้ ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.จะเร่งจัดทำหลักเกณฑ์รายละเอียดต่างๆ ให้แล้วเสร็จเพื่อเริ่มใช้ในการคัดเลือกผู้อำนวยการสถานศึกษาให้ทันการเปิด ภาคเรียนที่ 1/2560
ที่มา http://www.matichon.co.th/news/275799