"หมอธี"ยันเอ็มโอยู สกสค. กับออมสินครูได้ประโยชน์เต็ม ๆ เริ่มลดดอกเบี้ยครูเป็นหนี้ธ.ออมสิน มิ.ย. นี้ ขณะที่"ชาติชาย" เผย 2 แนวทางให้ครูเลือกปลดหนี้ จันทร์ที่ 7 พฤษภาคม 2561 เวลา 17.24 น.

วันนี้( 7 พ.ค.) ที่กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) ลงนามบันทึกแก้ไขเพิ่มเติมข้อตลกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้กองทุนณาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา(ช.พ.ค.) และโครงการสวัสดิการเงินกู้แก่สมาชิกการณาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของผู้กู้ ช.พ.ค.และช.พ.ส. โดยนพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า สาระสำคัญของการลงนามคือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่กู้เงินในโครงการดังกล่าว โดยสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. ไม่รับเงินสนับสนุนที่ธนาคารออมสินจ่ายให้แก่สำนักงานคณะกรรมการ สกสค.ภายใต้ข้อตกลงเดิม และให้ธนาคารออมสินนำเงินดังกล่าวไปลดอัตราดอกเบี้ยให้แก่ผู้กู้ที่มีวินัยดี ไม่มีหนี้สินค้างชำระ ซึ่งเป็นครูส่วนใหญ่ประมาณ 4 แสนกว่าคน หรือ 95 % โดยมีผลทันทีตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 เป็นต้นไป
“ส่วนกรณีที่มีผู้สงสัยว่าโครงการดังกล่าวครูจะได้ประโยชน์จริงหรือไม่นั้น ผมก็ไม่รู้ว่าพวกที่มากวนน้ำให้ขุ่นนั้นเสียผลประโยชน์อะไร ผมยืนยันโครงการการนี้ครูที่มีวินัยทางการเงินดี ไม่ค้างชำระหนี้จะได้ประโยชน์เต็ม ๆ ส่วนเรื่องการติดตามทวงหนี้เงินที่ทางธนาคารออมสินเคยหักจากกองทุนฯ และการทำประกันชีวิตของผู้กู้ดังกล่าว นั้นเรื่องนี้ไม่ยกเลิก ใครผิดใครถูกต้องไปว่ากัน และเรื่องนี้ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปคุยกันเป็นการภายในก่อน แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็จะต้องส่งเรื่องให้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้ตีความต่อไป”รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ด้านายชาติชาย กล่าวว่า ทั้งนี้ดอกเบี้ยที่ลดลงแต่ละโครงการเป็นจำนวน 0.50-1.00 บาท โดยครูและบุคลากรทางการศึกษาที่กู้เงินสามารถเลือกแนวทางการจ่ายเงินรายเดือนได้ 2 แนวทาง คือ แนวทางที่ 1 นำดอกเบี้ยที่ลดลงในแต่ละเดือนไปชำระเงินต้น โดยจ่ายเงินชำระหนี้รายเดือนเท่าเดิมแต่จะมีผลทำให้ระยะเวลาชำระหนี้หมดเร็ว และแนวทางที่ 2 นำดอกเบี้ยที่ลดลงไปลดการชำระหนี้รายเดือน ซึ่งจะทำให้จ่ายเงินชำระหนี้รายเดือนลดลงจากเดิม แต่ระยะเวลาชำระหนี้ยังคงเท่าเดิม ซึ่งแนวทางนี้ผู้กู้จะต้องแจ้งความประสงค์กับทางธนาคารออมสินสาขาที่ผู้จ่ายเงินชำระหนี้รายเดือน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาธนาคารออมสินได้เข้าไปช่วยกลุ่มครูที่ค้างชำระหนี้ โดยการปรับโครงสร้างหนี้ จากนี้ถ้าครูที่ค้างชำระหนี้สามารถดำเนินการได้ตามเงื่อนไขแล้วก็สามารถเข้าโครงการดังกล่าวได้ ส่วนเรื่องการติดตามทวงหนี้เงินที่ทางธนาคารออมสินเคยหักจากกองทุนฯ ซึ่งยอดล่าสุดจำนวน หมื่นกว่าล้านบาทนั้น เรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมาคุยกันเป็นการภายในต่อไป