รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ เรื่องงานและพลังงาน (Work and Energy) โดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนทุ่งสงวิทยา

KRUPUNMAI SHARE

ชื่อเรื่อง       รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ เรื่องงานและพลังงาน
                 (Work and Energy) โดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์
                 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนทุ่งสงวิทยา

ผู้รายงาน   นายพิศิษฐ์ ดำเกลี้ยง
ปีที่ศึกษา   2560

                                                       บทคัดย่อ

             รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ เรื่องงานและพลังงาน (Work and
Energy) โดยใช้ แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนทุ่งสงวิทยาโดยมีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ฟิสิกส์
เรื่องงานและพลังงาน (Work and Energy) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2)
เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ฟิสิกส์ เรื่องงานและพลังงาน (Work
and Energy) 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ 2 เรื่องงานและพลังงาน (Work
and Energy) ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์
เรื่องงานและพลังงาน (Work and Energy)
4)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  4ที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะการ
แก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์ เรื่องงานและพลังงาน (Work and Energy)
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนทุ่งสงวิทยา จำนวน 20 คน
ซึ่งได้จากการสุ่มกลุ่ม(Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1)
แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์ เรื่อง งานและพลังงาน (Work and Energy) จำนวน 5 ชุด
2) คู่มือการใช้แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์(แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E)
3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ 2 เรื่องงานและพลังงาน (Work and Energy)
แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีความยากง่ายตั้งแต่ 0.28 – 0.78
ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.26 – 0.75 และความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.87 และ
4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์
จำนวน 15 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น 0.94 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย (X)
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test for Dependent Sample)

ผลการวิจัยพบว่า
      1. แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์ เรื่องงานและพลังงาน (Work and Energy)
มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.43/ 81.50สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ 80/80

     2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์ เรื่องงานและพลังงาน
(Work and Energy) มีค่าเท่ากับ0.632แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ63.2
     3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์ เรื่องงานและพลังงาน
(Work and Energy) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นจากก่อนเรียน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียนเท่ากับ 13.55 และ
24.45 ตามลำดับ
    4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์
เรื่องงานและพลังงาน (Work and Energy) อยู่ในระดับมากที่สุด

       โดยสรุป นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์
เรื่องงานและพลังงาน (Work and Energy) ร่วมกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้
5E มีผลสัมฤทธิ์ด้านการคำนวณโจทย์ฟิสิกส์สูงขึ้นจากก่อนเรียนสามารถวิเคราะห์โจทย์ได้เป็นขั้นตอนตามหลักการ
ได้เรียนรู้ถึงจุดที่ต้องสังเกตว่าขั้นตอนที่ทำให้นักเรียนคำนวณผิดคืออะไรและมีความรู้สึกดีต่อการเ
รียนมากขึ้นดังนั้นครูฟิสิกส์จึงควรนำแบบฝึกทักษะการแก้ปัญหาโจทย์ไปใช้ประกอบการ
จัดการเรียนการสอนเพราะวิชาฟิสิกส์เป็นวิชาที่ยากและมีโจทย์คำนวณค่อนข้างมากจะทำให้สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนของนักเรียนได้เป็นอย่างดี

หน้าปก
คำนำ
ส่วนหน้า
แบบฝึกทักษะแก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์

 

5/5 - (1 vote)

KRUPUNMAI SHARE

Check Also

การประเมินโครงการพัฒนาสมรรถภาพการจัดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนเทศบาลบ้านกิโลสอง สังกัดเทศบาลเมืองอรัญญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

KRUPUNMAI SHARE ...

@ เว็ปไซต์ เพื่อข้อมูลข่าวสารทางด้านการศึกษา www.krupunmai.com @ ครูพันธุ์ใหม่ดอทคอม @