การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้ SAWTHONGNA Model ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

KRUPUNMAI SHARE

ชื่อเรื่อง           การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์  โดยใช้ 
                      SAWTHONGNA   Model  ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1     

ผู้ศึกษา           นางธนัญญ์ฎา  บึงไกร  โรงเรียนปรางค์กู่

สำนักงาน        สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา  เขต  28  
ปีที่ศึกษา         ปีการศึกษา  2560

บทคัดย่อ

                   การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์  โดยใช้  SAWTHONGNA   Model  ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความมุ่งหมาย  1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1  2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์  โดยใช้  SAWTHONGNA  Model  ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1  และ 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้  SAWTHONGNA  Model  ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ที่พัฒนาขึ้น  3.1) เปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์  ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3.2) เปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์  หลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์  และกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบปกติ โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยและพัฒนา(Research  and  Development) มี 3 ระยะ คือ  ระยะที่ 1 ขั้นศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาในจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์  ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1  ระยะที่ 2  ขั้นการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้
เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์  โดยใช้  SAWTHONGNA  Model ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1  ระยะที่  3  ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์  โดยมีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน  ประชากรที่ศึกษา รวมนักเรียนทั้งสิ้น 750 คน จำนวน  13 ห้องเรียน จากจำนวน 6 โรงเรียน ในสหวิทยาเขตปรางค์กู่  กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2 ห้องเรียน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้โรงเรียนเป็นหน่วยของการสุ่ม แล้วสุ่มห้องเรียนเป็นกลุ่มตัวอย่าง  โดยกลุ่มทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์  โดยใช้  SAWTHONGNA  Model  กลุ่มควบคุมได้รับการสอนตามรูปแบบปกติ

           ผลการวิจัยพบว่า  สภาพปัจจุบันและปัญหาในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ พบว่า ครูส่วนใหญ่จัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบบรรยายเป็นหลัก กระบวนการเรียนรู้ไม่สนับสนุนให้นักเรียนฝึกคิด สังเคราะห์  เชื่อมโยงและสร้างความรู้ด้วยตนเอง ส่งผลนักเรียนส่วนใหญ่ไม่มีความมั่นใจในตนเอง ขาด
การมีส่วนร่วมในการเรียนรู้  บรรยากาศการเรียนรู้ไม่เอื้อต่อการให้นักเรียนได้คิดและลงมือปฏิบัติ รวมถึงแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ  ซึ่งส่งผลต่อผลการเรียนรู้ของผู้เรียน   ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้ มีประสิทธิภาพจากคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีค่าเท่ากับ 73.87/74.79 และเมื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพจากคะแนนความคิดสร้างสรรค์ มีค่าเท่ากับ 71.37/76.77

ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่า
 
               1) การมีความคิดสร้างสรรค์มีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูง กว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ .01
               2) นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
มีผลสัมฤทธิ์ที่ดีกว่านักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบปกติ  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

 


 

       

 

5/5 - (1 vote)

KRUPUNMAI SHARE

Check Also

การประเมินโครงการพัฒนาสมรรถภาพการจัดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนเทศบาลบ้านกิโลสอง สังกัดเทศบาลเมืองอรัญญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

KRUPUNMAI SHARE ...

@ เว็ปไซต์ เพื่อข้อมูลข่าวสารทางด้านการศึกษา www.krupunmai.com @ ครูพันธุ์ใหม่ดอทคอม @