ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับชุดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา
สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม รายวิชาเมืองแพร่น่าอยู่ รหัสวิชา ส22201 สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นางพึงฤทัย กาศทิพย์ ตําแหน่งครู วิทยฐานะครูชํานาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่เด่นไชยวิทยา สังกัดองค์การบริหารส์วนจังหวัดแพร่
ปีที่วิจัย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐานรวมกับชุดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม รายวิชา เมืองแพร่น่าอยู่ รหัสวิชา ส22201 สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตามเกณฑ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการแก้ปัญหาที่เรียนด้วยรูปแบบการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับ ชุดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม รายวิชาเมืองแพร่น่าอยู่ รหัสวิชา ส22201 สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษา ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการสอนด้วยรูปแบบการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ร่วมกับชุดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม รายวิชาเมืองแพร่น่าอยู่ รหัสวิชา ส22201 สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยมุ่งประเมินในสิ่งต่อไปนี้ คือ ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และความพึงพอใจของนักเรียนภายหลังได้รับการสอนด้วยรูปแบบ การเรียนการสอน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียน องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่เด่นไชยวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ที่กําลังเรียน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จํานวน 2 ห้องเรียน รวมทั้งสิ้น 50 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่ม แบบกลุ่ม (Cluster sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย รูปแบบการสอนโดยใช้ ปัญหาเป็นฐานร่วมกับชุดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม รายวิชา เมืองแพร่น่าอยู่ รหัสวิชา ส22201 สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน แบบทดสอบวัดทักษะในการแก้ปัญหา และแบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ ข้อมูลโดยใช้ 1) ค่าร้อยละ (%) 2) ค่าเฉลี่ย (X) 3) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) 4) การทดสอบ ค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test Dependent) และ 5) การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า “SPIPE Model” โดยมี องค์ประกอบ ดังนี้ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน สาระความรู้และทักษะ ความสามารถ สิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุนรูปแบบ