ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา หนึ่งในปัญหาความเหลื่อมล้ำของประเทศไทย จากความแตกต่างของรายได้ครัวเรือนของครอบครัวที่มีรายได้สูง และครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ เป็นอุปสรรคสำคัญต่อโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาของเด็กและเยาวชน และแม้ว่าไทยจะควักเงินลงทุนเพื่อการศึกษากว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี แต่ทว่าเรายังพบปัญหานี้ในทั่วทุกหัวระแหง
ในปีการศึกษา 2562 กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เตรียมจัดสรร “ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง” จำนวน 2,500 ทุนครั้งแรก ให้แก่เด็กและเยาวชนในครอบครัวยากจน ขาดแคลนทุนทรัพย์ ที่กำลังศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษา (ม.) ปีที่ 3, ม.6 ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ปี 3 ได้มีโอกาสศึกษาต่อสายอาชีพขั้นสูง ในสถาบันการศึกษาที่นำเสนอโครงการนวัตกรรมและผ่านการคัดเลือกจาก กสศ.แล้ว ซึ่งทุนดังกล่าวแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ทุน 5 ปี ปวช.ต่อเนื่อง ปวส. หรืออนุปริญญา จะได้รับค่าใช้จ่ายรายเดือน 6,500 บาทต่อเดือนใน 3 ปีแรกและ 7,500 บาทต่อทุนใน 2 ปีหลัง และทุน 2 ปี ปวส. อนุปริญญา สำหรับนักเรียนที่กำลังศึกษาชั้นม.6/ปวช.3 หรือเทียบเท่าจะได้รับรายเดือน 7,500 บาทต่อทุน โดยจ่ายปีละ 12 เดือน ไม่เกินระยะเวลา 5 ปีหรือ 2 ปีตามกรณี ที่สำคัญไม่มีข้อผูกมัดชดใช้ทุน!!
“การสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา มีหลายเรื่องที่ต้องดำเนินการแต่ระยะแรกเริ่มต้นมุ่งสร้างคนในสายอาชีพ ซึ่งเป็นสาขาที่มีความต้องการสูง โดยเฉพาะสาขาที่สอดคล้องกับ 10 กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 กลุ่ม เพราะ กสศ.หวังใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างโอกาสให้แก่เด็กและเยาวชน ตลอดจนสถานศึกษาได้พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน เครื่องมืออุปกรณ์ให้ทันสมัย เรียนจบมีงานทำ”ศ.ดร.นักสิทธิ์ คูวัฒนาชัย ที่ปรึกษา กสศ.บอกถึงเป้าหมาย
ที่ปรึกษา กสศ.บอกด้วยว่า การจัดสรรทุนดังจะดำเนินการผ่านสถาบันการศึกษาที่ผ่านการคัดเลือกโดย กสศ.ว่าจัดทำโครงการที่มีนวัตกรรมตามหลักเกณฑ์ ซึ่งเสนอมาถึง 154 โครงการ 99 สถาบัน 51 จังหวัด รวมทุน 8,479 คน ขณะนี้คัดเลือกเหลือ 55 โครงการจาก 39 สถาบันใน 23 จังหวัด เข้ารวม 2,500 ทุน มีถึง 95สาขาตามเป้าหมายประเทศ สาขาขาดแคลน สาขาสะเต็มและเทคโนโลยีดิจิทัล อาทิ การแปรรูป เกษตรยุคใหม่ โลจิสติกส์ระบบราง หุ่นยนต์อัจฉริยะ เป็นต้น ก้าวต่อจากนี้เป็นการเฟ้นหานักเรียนเพื่อรับทุนในแต่ละสถาบัน เมื่อปัจจัยต่างๆครบถ้วนก็จะนำไปสู่การผลิตบุคลากรรองรับการพัฒนาประเทศได้มีประสิทธิภาพ
การเฟ้นผู้รับทุนจะต้องได้คนมีศักยภาพและมาจากครอบครัวที่ยากจนจริง นพ.ศุภกร บัวสาย ผู้จัดการ กสศ.แจงว่า ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ไม่ใช่แค่ทุนที่จะเป็นประตูโอกาสการศึกษาแต่ กสศ.และสถาบันการศึกษาจะร่วมกันดูแลไปตลอดเส้นทางการศึกษาของเด็ก เด็กจะมีโอกาสได้เรียนรู้กับนายจ้างและปฏิบัติการจริง สัมผัสกับเรียนรู้ทักษะใหม่และทักษะอนาคต และได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ กสศ.จึงต้องการให้เด็กที่ครอบครัวยากจนได้รับทุนนี้เพราะหากได้คนที่ไม่ยากจนจริงทำให้โครงการเสียโอกาสแต่ต้น จึงกำหนดคุณสมบัติของผู้ได้รับทุนจะต้องเป็นเยาวชน ที่กำลังศึกษาระดับชั้น ม.3/ม.6 หรือเทียบเท่า/ปวช.3 ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาส มีรายได้ ครอบครัวเฉลี่ยต่อคนไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน
“จะมีกระบวนการตรวจสอบความยากจนเพิ่มเติม และเป็นนักเรียนที่มีศักยภาพในการเรียนต่อ โดยพิจารณาจากเกรดเฉลี่ยสะสม หรือมีความสามารถพิเศษ แต่หากไม่เก่งวิชาการแต่มีศักยภาพโดดเด่นด้านทักษะฝีมือ นวัตกรรม เป็นนักประดิษฐ์ และมีประสบการณ์ในกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อส่วนรวมที่พิสูจน์ได้ ซึ่งผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายประจำเดือน และค่าธรรมเนียมการศึกษาในอัตราประหยัด โดยไม่มีข้อผูกมัดที่ผู้รับทุนจะต้องชดใช้ทุนในอนาคต หากเรียนจนจบการศึกษา และจะเปิดรับสมัครอยู่ในช่วงวันที่ 18 ก.พ. – 18 มี.ค.นี้”ผู้จัดการ กสศ.กล่าว