บทคัดย่อ
เรื่อง รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะทางการอ่านและการสะกดคำภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการสอนโฟนิกส์
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดรัตนาราม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2
ผู้วิจัย ว่าที่ร้อยตรี(หญิง)อมรรัตน์ สุขมาก
ปีที่ศึกษา 2563
การวิจัยเชิงปฎิบัติการในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะทางการอ่านและการสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอนโฟนิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะทางการอ่านและการสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอนโฟนิกส์ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจหลังการใช้แบบฝึกทักษะทางการอ่านและการสะกดคำภาษาอังกฤษ กลุ่มเป้าหมายคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดรัตนาราม จำนวน 129 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะการอ่านและการสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอนโฟนิกส์ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 3) แบบประเมินความพึงพอใจหลังการใช้แบบฝึกทักษะทางการอ่านและการสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอนโฟนิกส์ วิเคราะห์ข้อมูลโดย 1) หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ โดยใช้สูตร E1/E2 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะทางการอ่านและการสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอนโฟนิกส์ โดยการหาค่าเฉลี่ยประชากร หรือ 3) วิเคราะห์คะแนนความพึงพอใจหลังการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะทางการอ่านและการสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอนโฟนิกส์ โดยนำคะแนนมาแจกแจงความถี่หาค่าเฉลี่ย
และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD)
ผลการศึกษาที่สำคัญสรุปได้ดังนี้
1. การสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะทางการอ่านและการสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอนโฟนิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 83.08/83.28 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะทางการอ่านและการสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอนโฟนิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีค่าเฉลี่ยก่อนเรียน 22.35 และมีค่าเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 33.31
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกทักษะทางการอ่านและการสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอนโฟนิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก คือ มีค่าเฉลี่ย 4.41