เป็นหนี้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าเบี้ยวหนี้นั้นสร้างปัญหา ลั่น"ครู"ต้องเป็นแบบอย่างแก่สังคม
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.58 รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะทำงานปรับปรุงหลักเกณฑ์วิทยฐานะครูใหม่หรือเกณฑ์อนาคต (PA) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ คณะทำงานได้หารือรายละเอียดของการขอมีหรือขอเลื่อนวิทยฐานะ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในทุกวิทยฐานะ โดยย้ำว่าจะต้องมีการทำข้อตกลงในการพัฒนางาน หรือ Performance Agreement (PA) ซึ่งจะต้องทำเป็นกิจวัตรประจำปี มีเอกสารจำนวนไม่มาก และมีการลงลึกในรายละเอียดของคุณสมบัติของครูที่จะขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ว่า
นอกจากต้องมีคุณธรรม จริยธรรม มีจรรยาบรรณความเป็นครู ไม่ถูกลงโทษทางแผ่นดิน ไม่ถูกลงโทษทางจรรยาบรรณจากสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และไม่ถูกลงโทษจากต้นสังกัดแล้ว ที่ประชุมได้หารือว่าข้อหนึ่งที่ควรระบุไว้ในข้อกำหนดในส่วนของจรรยาบรรณไว้ด้วยว่า ผู้ ขอมีหรือขอเลื่อนวิทยฐานะ จะต้องไม่ค้างชำระหนี้ จนถึงขั้นถูกยื่นโนติส ในวันที่ขอมีหรือขอเลื่อนวิทยฐานะ และหากตรวจสอบพบในภายหลังว่าให้ข้อมูลเท็จ ก็สามารถถอดถอนวิทยฐานะได้
ปลัด ศธ.กล่าวต่อไปว่า การที่ต้องมีข้อกำหนดในส่วนของจรรยาบรรณว่า ผู้ขอมีหรือขอเลื่อนวิทยฐานะ จะต้องไม่ค้างชำระหนี้ หรือไม่ยอมใช้หนี้ และที่กำลังจะถูกฟ้อง เนื่องจากการค้างชำระหนี้ในปัจจุบันกลายเป็นปัญหาสังคม และครูต้องเป็นแบบอย่างของสังคม จึงจำเป็นต้องมีจรรยาบรรณ และจริยธรรมที่ดี ดังนั้น คนที่ค้างชำระหนี้ไม่ว่าจะเป็นหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หรือหนี้สถาบันการเงินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนี้ธนาคาร หรือสหกรณ์ออมทรัพย์ครู จะต้องมีวินัยในการชำระหนี้
อย่างไร ก็ตาม เรื่องข้อกำหนดดังกล่าว ยังเป็นเพียงข้อเสนอของคณะทำงานเท่านั้น ซึ่งยังต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดของหลักเกณฑ์อื่นๆ อีก
15 ธ.ค.58